พิมพ์ผ้าชุดออกกำลังกาย ชุดว่ายน้ำ เทคนิคการพิมพ์ผ้ายอดนิยมมีกี่วิธี และ ข้อดี ข้อเสียในการพิมพ์ผ้าแต่ละวิธีต่างกันยังไง

วันนี้เจ้นมีเรื่องจะมาเล่าให้ฟังนะคะ เจ้นไม่อยากให้เพื่อนๆ พลาดโอกาสดีๆ แบบนี้เลย ในขณะที่แบรนด์ต่างๆ ทั้งแบรนด์ชุดว่าน้ำ แบรนด์ชุดออกกำลังกาย และ แบรนด์หน้าใหม่อีกหลายๆแบรนด์ กำลังเริ่มเข้าสู่ตลาดนะคะ โดยการผลิตของที่มีความแตกต่าง ความแปลกใหม่มากขึ้น มีการใช้ผ้าพิมพ์ที่มีเป็นลายเป็นเอกลักษณ์นะคะ ทั้ง บิกินี่ ชุดว่ายน้ำ สปอร์ตบรา เลกกิ้ง เรียกได้ว่าเป็นรายได้มหาศาลจริงๆ เลยนะคะ เป็น Mega Trend ยาวๆกันเลยทีเดียว

ที่เจ้นพูดเนี้ยไม่ได้แบบมโนขึ้นมาเองนะ เนื่องจากมีเพื่อนๆ สอบถามเข้ามากันเยอะแยะมากมาย ในเรื่องการ พิมพ์ผ้าชุดออกกำลังกาย ชุดว่ายน้ำ เอาอย่างงี้ เจ้นมีผลวิจัยของ Smithers Pira เป็นองค์กรที่เค้ารีเซิทเรื่องเกี่ยวกับผ้าพิมพ์โดยเฉพาะเลย เค้าบอกว่าในปี 2016-2021 หรือในอีก 5 ปีข้างหน้า มูลค่าผ้าพิมพ์สูงถึง 2.66 พันล้านเหรียญสหรัฐ เที่ยบเท่ากับผ้าจำนวน 1.95 พันล้านตารางเมตรนะคะ ใหญ่ขนาดไหนนะหรอ ใหญ่เท่ากับสิงคโป 3 เกาะ ถ้าเอาผ้ามาคลุมรวมกันขนาดนั้นเลยนะคะ

ทีนี้สิ่งที่สำคัญที่เราต้องทราบคือเรื่องของเทคนิคการพิมพ์แต่ละชนิด ข้อดี ข้อเสีย การพิมพ์ผ้ามีกี่วิธี และ มีอะไรบ้างนะคะ เพื่อที่จะทำให้คอลเลคชั่นของเพื่อนๆ ออกมาดีที่สุด เพราะฉนั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าคะ

เทคนิคแรกนะคะ เทคนิคการพิมพ์สกรีน หรือ Screen Printing นะคะ เทคนิคนนี้เราจะใช้การสกรีนมึกลงบนผ้านะคะ โดยผ่านตาข่าย หรือ ตัวที่เรียกว่าจอสกรีนนะคะ เทคนิคนี้สามารถทำด้วยตัวเองก็ได้ หรือ ถ้าสมมุติว่าเราต้องการทำจำนวนเยอะๆ เนี้ย ก็จะใช้เครื่องจักรก็ได้นะคะ เทคนิคนี้ค่อนข้างที่จะเป็นเทคนิคที่เห็นทั่วไปตามท้องตลาด เสื้อยืดส่วนใหญ่ที่เพื่อนๆ เห็นเนี้ยก็เป็นใช้การเทคนิคพิมพ์สกรีนเหมือนกันนะคะ ซึ่งหมึกที่เลือกใช้เนี้ยจะมีหมึกหลายแบบมากมายเลยนะคะ มีทั้งหมึกที่มีความแวววาว มีทั้งหมึกที่เป็นกลิตเตอร์ หมึกเมทัลลิก หมึกสะท้อนแสงก็มีนะคะ ที่เรียกว่า Reflective หรือ ว่าหมึกที่เป็นซิลิโคนสกรีนก็มี

ซึ่งข้อดีของมันคือ ประหยัดค่าใช้จ่าย ง่าย เร็ว คงทน ใช้ได้หลากหลายเนื้อผ้านะคะ และ ก็สามารถพิมพ์ได้ดีเลยทีเดียว

สำหรับข้อเสียของมันก็มีด้วยเหมือนกันนะคะ คือ ไม่สามารถพิมพ์ได้หลากหลายสีนะคะ หรือ ถ้าเราต้องการพิมพ์แบบไล่สีนะคะ จากเข้มไปอ่อนก็ไม่สามารถทำได้ และ ถ้ายิ่งมีสีมากเท่าไหร่เนี้ย เราก็ยิ่งมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมากเท่านั้นคะ

วิธีที่ 2 Digital Direct to Garment (DTG)

การพิมพ์แบบดิจิตอลนะคะ ลองนึกภาพดู คือเราจะใช้เครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่นะคะ แทนที่เราจะใช้พิมพ์กระดาษ อันนี้มันจะเป็นคล้ายๆ เครื่องพิมพ์อิ้งเจ็ทสีขนาดใหญ่ที่สามารถใส่ผ้าขนาดประมาณกว้างสัก 150 เซนติเมตรเข้าไปแทนกระดาษแล้วก็พิมพ์ให้หมึกซึมลงบนผ่านผ้าออกมาเลยนะคะ สิ่งที่ได้คือความละเอียดสูง สามารถออกแบบได้อย่างหลากหลาย และ ก็ใช้ได้หลายสี ตัวสีไม่จำกัด สามารถใช้ได้ทุกสี การออกแบบสามารถทำที่มีความรายละเอียดสูงได้นะคะ และ ก็สามารถออกแบบได้อย่างอิสระ ดีไซน์เนอร์คิดอะไรออกมาก็ได้ และก็พิมพ์ออกมาได้ดี

ส่วนข้อเสียของมันก็มีเหมือนกันคือ ราคาแพง หมึกสีจะอ่อนบางกว่าหมึกตัวอื่นๆนะคะ และ ยากที่จะพิมพ์ลงบนโพลีเอสเตอร์โดยที่จะไม่ใช้สารเคลือบนะคะ

วิธีที่ 3 Sublimation

เป็นวิธีการพิมพ์ที่มีความนิยมสูงที่สุดในตอนนี้สำหรับ ชุดว่ายน้ำ และ ชุดออกกำลังกาย นะคะ พูดง่ายๆ ก็คือ มันก็เหมือนเครื่องพิมพ์อิ้งเจ็ท เราออกแบบแล้วพิมพ์ลงบนกระดาษ แล้วเราเอากระดาษไปวางลงบนผ้าโดยใช้เครื่องที่เรียกว่าฮีตทรานเฟอร์นะคะ  ตัวหมึกเนี้ย จะทำปฏิกิริยากับความร้อนทำให้เกิดสีติดลงบนผ้า ซึ่งผ้าที่ใช้ต้องเป็นผ้าโพลีเอสเตอร์นะคะ เพราะว่าตัวผ้าโพลีเอสเตอร์ เส้นใยมันทนทานความร้อนคะ ตัวเส้นใยมันจะเปิดรับสี สีมันจะเข้าไปอยู่ตัวเส้นใยของเนื้อผ้าเลย

ข้อดีของวีธีแบบนี้คือ เลือกสีได้ไม่จำกัดไม่ได้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนะคะ ราคาไม่ได้แพง สามารถออกแบบที่ซับซ้อนได้ตามที่ดีไซน์เนอร์ต้องการนะคะ คือมีอิสระในการออกแบบ เนื่องจากตัวหมึกมันไม่ได้อยู่บนพื้นผิวนะคะเพราะฉนั้นเนี้ยเราจะไม่รู้สึกเลยว่ามันคือผ้าพิมพ์

ส่วนข้อเสียของมันก็มีเหมือนกัน คือผ้าที่ใช้จำเป็นต้องเป็นผ้าโพลีเอสเตอร์เท่านั้น หรือ วัสดุที่เคลือบพื้นผิวด้วยโพลีเอสเตอร์เท่านั้น และ ด้านนึงเวลาพิมพ์มันจะเป็นลายเป็นสีใช่มั๊ยคะ อีกด้านนึงมันจะเป็นสีขาว เพราะฉนั้นวิธีสังเกตง่ายๆสำหรับผ้าพิมพ์ตัวนี้ ก็คือลองกลับตัวชุดของเราดูว่าด้านหลังมันเป็นสีขาวรึป่าว ส่วนคุณภาพก็ลองให้ยืดดูนะคะว่ายืดแล้วกลับคืนสู่สภาพเดิมรึป่าว หรือ พอยืดแล้วชุดนั้นเสียไปเลย อันนี้เพื่อนๆ ต้องลองสังเกตกันดูนะคะ

จากที่เราได้พูดไปเมื่อต้นวีดีโอนะคะว่า ตลาดผ้าพิมพ์ชุดว่ายน้ำ ชุดออกกำลังกาย ในอีก 5 ปีข้างหน้า ตลาดจะมีการเติบโตสูงถึง 17.5% ฉนั้นแบรนด์จะให้ความสำคัญกับการผลิตลายพิมพ์ที่มากขึ้น เนื่องจากสามารถสร้างความโดดเด่นได้ สามารถสร้างจุดขายได้ สามารถสร้างเอกลักษณ์ของตัวแบรนด์ได้ และ ตัวลูกค้าเองก็มีดีมานด์สูงขึ้นในการที่จะบริโภคตัวผ้าพิมพ์พวกนี้นะคะ

สรุปแนะนำเลยว่าถ้าเพื่อนอยาก พิมพ์ผ้าชุดออกกำลังกาย ชุดว่ายน้ำ โดยใช้ผ้าโพลีเอสเตอร์ในการผลิต สามารถใช้เทคนิค Sublimation จะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดนะคะ

ทั้งหมดเพื่อนๆ สามารถนำไปใช้พูดคุยกับซัพพลายเยอร์ได้ พอเพื่อนๆ รู้แล้วว่าอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุด เทคนิคไหนควรใช้กับอะไร ยกตัวอย่างเช่น การทำโลโก้อาจจะใช้เทคนิคสกรีนแบบแรก การพิมพ์โดยผ้าโพลีเอสเตอร์อาจจะใช้เทคนิคสุดท้ายนะคะ เพื่อนๆจะรู้ได้เลยว่าข้อดีข้อเสียของมันคืออะไรนคะ

สำหรับวันนี้ไปก่อนคร่า