ในการ ออกแบบชุดออกกำลังกาย และ ออกแบบชุดว่ายน้ำ สามารถทำได้หลายวิธีนะคะ แต่หลักๆที่เรานิยมใช้กันอยู่มี 2 วิธีค่ะ คือ Design to Cost การออกแบบตามต้นทุนที่เราต้องการ และ Design to Value การออกแบบที่สร้างคุณค่าสูงสุดให้กับลูกค้า เรามาดูกันค่ะว่า 2 วิธีนี้แตกต่างกันอย่างไรเวลาที่คุณซื้อ ชุดออกกำลังกาย ชุดว่ายน้ำ คุณเลือกซื้อของที่ราคา หรือว่าเลือกซื้อที่คุณภาพของสินค้า มากกว่ากันคะ ในทางกลับกันในวันที่คุณมาเป็นเจ้าของแบรนด์ชุดว่ายน้ำ ชุดออกกำลังกาย คุณจะนึกถึงต้นทุนทางการผลิตก่อน หรือ สินค้าได้สร้างคุณค่าอะไรให้กับผู้คนก่อน เจ้นยกตัวอย่างแบบนี้นะคะ ทำไมคนถึงซื้อของแบรนด์ดังๆ ทั้งที่ราคาสูง และก็หาซื้อยากกว่า เพราะว่าเค้ามีความเชื่อว่ามันมีคุณภาพ ใช้ได้นาน และทำให้เค้าไปถึงเป้าหมายที่เค้าต้องการได้ จริงมั้ยคะ เพราะฉะนั้นมีการแข่งขันกันในตลาดที่ค่อนข้างสูง มีแบรนด์เกิดขึ้นใหม่ทุกๆวัน วันนี้เจ้นเลยอยากจะมาคุยเรื่อง วิธีที่นิยมใช้ในการ ออกแบบชุดออกกำลังกาย และ ออกแบบชุดว่ายน้ำ 2 วิธีหลักๆ ที่แบรนด์นิยมใช้กันค่ะ ก็คือ Design to Cost และ Design to Value ค่ะ
เริ่มจากวิธีแรก Design to Cost เป็นการออกแบบตามต้นทุนที่เราต้องการค่ะ
อธิบายง่ายๆ นะคะ ก็คือการออกแบบเพื่อที่จะให้ฟิตกับต้นทุนที่เราได้ตั้งไว้ เช่นเราตั้ง cost หรือต้นทุน ขึ้นมาก่อนแล้วออกแบบให้ตรงกับ cost นั้น ส่วนใหญ่แล้วราคาผลิตก็จะอยู่ที่วัสดุที่เลือกใช้ ความยากง่ายของดีไซน์ และจำนวนนะคะ ยิ่งจำนวนเยอะก็ยิ่งราคาถูก ซึ่งก็แล้วแต่กลยุทธ์ที่เจ้าของแบรนด์จะเลือกใช้ค่ะ การออกแบบ แบบนี้จะเป็นการช่วยลดต้นทุนทางการผลิตได้ค่ะ ยกตัวอย่าง การจำกัดเสปคของวัตถุดิบหลักๆ เช่น ผ้าชุดออกกำลังกาย ผ้าชุดว่ายน้ำ อันนี้เป็นส่วนที่สามารถทำให้ต้นทุนลด หรือเพิ่มได้เลยนะคะ หรือการย้อมสี ผ้าชุดออกกำลัง หรือ ผ้าชุดว่ายน้ำ ก็เช่นกัน ถ้าเราต้องการสีเฉพาะสำหรับแบรนด์เราเท่านั้น ราคาผ้าก็จะสูงกว่าราคาของผ้าที่มีอยู่ในสต้อกอยู่แล้วนะคะ หรือแม้แต่ผ้า texture ก็จะราคาสูงกว่า ผ้าชุดออกกำลังกาย และ ผ้าชุดว่ายน้ำ ธรรมดาค่ะ
Design to Value ก็คือการออกแบบที่สร้างคุณค่าสูงสุดให้กับลูกค้าของคุณ
คือการออกแบบจากการหาคุณค่าให้กับลูกค้า คุณค่าคืออะไรคะ คุณค่าก็คือสิ่งที่เราให้ความสำคัญ จะเป็นในลักษณะนามธรรม เป็นความเชื่อ เป็นประสบการณ์ หรือว่าเป็นการที่มาเติมเต็มความต้องการของลูกค้าเรานะคะ ยกตัวอย่างเช่น หากลูกค้าคุณให้คุณค่าในเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อม ผ้าชุดว่ายน้ำ หรือ ผ้าชุดออกกำลังกาย ที่เราใช้ก็ควรจะเป็นผ้าแบบรีไซเคิล หรือ ลูกค้าคุณให้คุณค่าเกี่ยวกับเรื่องการพัฒนาตัวเอง คุณก็จะต้องหานวัตกรรมใหม่ๆ มาอยู่เสมอ ในดีไซน์ หรือ สินค้าของคุณ เช่นนวัตกรรม ผ้าชุดออกกำลังกาย ที่แห้งเร็ว ไม่มีกลิ่น ใส่แล้วเย็นแบบนี้เป็นต้นนะคะ หรือ ลูกค้าคุณอาจจะมองเห็นคุณค่าเรื่องความคุ้มค่า ดีไซน์ก็จะต้องง่าย ตัดเย็บต้องดี เป็นต้นนะคะดังนั้นสิ่งที่แตกต่างกันก็คือจุดประสงค์ Design to Value นะคะ จะเน้นการแข่งขันด้านคุณภาพ ส่วน Design to Cost จุดประสงค์คือให้ได้ราคาตามที่ต้องการนั่นเองค่ะในการทำ Design to Value คุณจะต้องหาข้อมูลของลูกค้าคุณ หรือ ที่เราเรียกกันว่า Market Research หรือ การวิจัยทางการตลาดนะคะ ว่าจริงๆ แล้วลูกค้าคุณต้องการอะไร อะไรที่เป็นตัวกระตุ้นทำให้ลูกค้าคุณซื้อสินค้านั้น วงจรชีวิตของลูกค้าคุณเป็นยังไง แบรนด์และสินค้าต้องสร้างความแตกต่าง แบรนด์ต้องมีภาพลักษณ์ที่แสดงออกตรงกับคุณค่านั้นๆ และ ประสบการณ์ของลูกค้าจะเป็นสิ่งสำคัญในการออกแบบด้วยคุณค่าค่ะ ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ด้านการใช้สินค้า และ การบริการต่างๆ ต้องแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าได้จริง และ ต้องสื่อสารคุณค่านั้นๆที่เรามอบให้ไปถึงลูกค้าให้เขาทราบด้วยค่ะดังนั้นก็อยู่ที่คุณนะคะ ที่เป็นเจ้าของแบรนด์จะเลือกทำแบบไหน ให้คุณค่ากับสิ่งไหนด้วยค่ะ หากเราเจอลูกค้าที่ให้คุณค่าที่ตรงกับแบรนด์เรา ก็ไม่ยากเลยที่ลูกค้าจะกลายมาเป็นแฟนพันธุ์แท้ของเราได้ในที่สุดค่ะในตอนหน้าเราจะมาดูกันว่าถึงเวลาที่แบรนด์คุณจะต้องทำ Design to Value กันแล้วหรือยังกันนะคะถ้าใครสนใจอยากรู้เทรนด์ใหม่ๆ และ Content ดีๆ เกี่ยวกับ ชุดออกกำลังกาย ชุดว่ายน้ำ สามารถลงทะเบียนรับ Newsletter ของเราได้ข้างล่างเลยนะคะ หรือ คนไหนสนใจ ผลิตชุดออกกำลังกาย ผลิตชุดว่ายน้ำ หรือ คอร์สเรียน การออกแบบ การทำแบรนด์ และ การผลิต สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Passion to Profit นะคะ